TikTok ได้ปล่อยฟีเจอร์ที่มีชื่อว่า ‘Series’ ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมสำหรับผู้ใช้งานบางกลุ่มที่ถูกเลือก ซึ่งทำให้เหล่านักสร้างสรรค์วิดีโอสามารถสร้างวิดีโอได้ยาวถึง 20 นาที และสามารถเรียกเก็บเงินสำหรับการเข้าถึงเนื้อหาพิเศษได้ด้วย 

^{Image Source : TikTok}

แต่ตอนนี้ผู้ใช้งานของ TikTok สามารถสร้างรายได้ด้วยฟีเจอร์ ‘Series’ สำหรับเนื้อหาพิเศษได้แล้วหลัง TikTok ได้อัปเดตระบบ ‘Paywall’ (วิธีการจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาเพื่อให้ผู้ใช้งานสมัครจ่ายเงินเป็นสมาชิก) ให้กับผู้ใช้งาน ทำให้ TikTok นั้นมีฟีเจอร์ที่ไม่ต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น OnlyFans ที่ครีเอเตอร์สามารถล็อกเนื้อหาพิเศษที่แฟนๆ จะต้องจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงได้ สำหรับ TikTok ผู้ใช้งานสามารถตั้งราคาของเนื้อหาพิเศษของตนเองได้ตั้งแต่ 1 - 190 ดอลลาร์ อีกทั้งยังเพิ่มความพรีเมียมด้วยวิดีโอที่มีความยาวได้สูงสุดถึง 20 นาที นับเป็น 2 เท่าของขีดจำกัด สำหรับผู้ใช้บางรายที่ใช้ได้แค่ 10 นาทีอีกด้วย

สำหรับฟีเจอร์ใหม่นี้ TikTok เปิดโอกาสให้สำหรับผู้ใช้งานมากขึ้น และต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง

1. ผู้ใช้งานต้องมีอายุ 18 ปี ขึ้นไป
2. บัญชีผู้ใช้งานต้องมีอายุอย่างน้อย 30 วัน
3. มีการโพสต์วิดีโอที่ตั้งค่าเป็นสาธารณะ 4 วิดีโอหรือมากกว่าภายใน 30 วัน
4. มีการรับชมวิดีโอแบบ ‘authentic’ อย่างน้อย 1,000 วิว ภายใน 30 วัน
5. มีผู้ติดตาม 10,000 คนขึ้นไป หากมีผู้ติดตามน้อยกว่า 10,000 คนแต่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์อื่นๆ สามารถสมัครได้โดยระบุลิงก์ไปยังเนื้อหาพรีเมียมที่คุณเคยขายบนแพลตฟอร์มอื่นผ่านทาง Creator Center ของ TikTok

Premium Content เป็นวิธีการสร้างรายได้วิธีใหม่สำหรับผู้ใช้งาน TikTok สำหรับเนื้อหาที่ถูกอัปโหลดลงบนแอปพลิเคชัน เพราะหากย้อนกลับไปผู้ใช้งานของ TikTok มักจะกล่าวว่า TikTok จ่ายเงินแย่กว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง YouTube เนื้อหาพรีเมียมเป็นวิธีใหม่ล่าสุดสำหรับผู้สร้าง TikTok ในการสร้างรายได้จากเนื้อหาที่พวกเขาโพสต์บน TikTok ถึงแม้ในอดีต ผู้ใช้งานจะรู้สึกผิดหวังกับผลตอบแทน โดยกล่าวว่าการจ่ายเงินของ TikTok นั้นแย่กว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง YouTube เพราะกองทุนดั้งเดิมของ TikTok เห็นว่าผู้ใช้ทำเงินสำหรับวิดีโอไวรัลได้เท่านั้น ทำให้บริษัทเพิ่งเปิดตัวกองทุนรุ่นปรับปรุงใหม่ นั่นคือ Creativity Program ซึ่งต้องใช้วิดีโอที่ยาวกว่าจึงจะผ่านเกณฑ์

อ้างอิง

TikTok

The Verge